05.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 4 เคาน์เตอร์ G สายการบินแอร์อาราเบีย Air Arabia (G9) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
08.10 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติชาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ G9 822 ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง
12.10 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติชาร์จาห์ (รอเวลาสำหรับเปลี่ยนเที่ยวบิน 1 ชั่วโมง)
13.05 น. ออกเดินทางสู่ เมืองทบิลิซิ (TBILISI) ประเทศจอร์เจีย โดยเที่ยวบินที่ G9 293 ใช้เวลาบินประมาณ 3.30 ชั่วโมง
16.30 น. ถึงสนามบินทบิลิซิ (TBILISI) ประเทศจอร์เจีย นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง, ศุลกากรและรับสัมภาระเรียบร้อย (เวลาท้องถิ่นของประเทศจอร์เจียช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 3 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาให้ตรงตามเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
หลังอาหาร เดินเล่นชมไลฟ์สไตล์ยามค่ำคืน ณ ย่านถนนคนเดินชาเดอนี่ (Shardeni Street) แหล่งศูนย์รวมทางสังคมและวัฒนธรรมของชาวจอร์เจีย ตั้งอยู่ในย่านใจเมืองเก่า มีความเป็นกลิ่นอายแบบยุโรป ตลอดทางเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านขายของที่ระลึกแบบพื้นเมือง ร้านกาแฟ สิ่งก่อสร้างบ้านเรือนแบบทบิลิซีที่โดดเด่น รวมไปถึงแหล่งรวมร้านอาหาร และร้านกาแฟสุดเก๋มากมาย
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางสู่เมืองคาซเบกี (Kazbegi) เมืองเล็กๆ ที่ไม่ธรรมดา ตั้งอยู่บนเทือกเขาคอเคซัส (Caucasus) เทือกเขาที่เป็นศูนย์กลางสำคัญของประเทศจอร์เจีย เป็นเขตแบ่งพรมแดนระหว่างทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย อยู่ห่างจากเมืองหลวงทบิลิซี ประมาณ 157 กิโลเมตร เทือกเขาแห่งนี้สูง 2,170 เมตร สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามจนได้รับฉายาว่า เมืองสวรรค์ รวมทั้งเป็นจุดชมวิวของยอดเขาคาซเบกิ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
สัมผัสความอลังการเทือกเขาคอร์เคซัส และถ่ายรูปโบสถ์เกอร์เกตี้ ชื่อดังกลางหุบเขา
นำท่านขึ้นรถ 4WD (รถขับเคลื่อน 4 ล้อ) มุ่งหน้าสู่ใจกลางหุบเขาคอร์เคซัส (CAUCASUS) ระหว่างทางชมบรรยากาศความอลังการความงดงามของเทือกเขาคอเคซัส แวะชมความสวยงามของ โบสถ์เกอร์เกตี้ (GERGETI TRINITY CHURCH) หรือเรียกว่า โบสถ์สมินดา ซาเมบา โบสถ์ชื่อดังกลางหุบเขาคอร์เคซัสบนเนินเขาเหนือหมู่บ้านเกอร์เกติ เป็นสัญลักษณ์สำคัญหนึ่งของประเทศจอร์เจีย โบสถ์เก่าแก่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ทำด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมืองกูดาอูรี (Gudauri) ตั้งอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขาของเทือกเขาคอเคซัสใหญ่ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,100 เมตร เป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียง เป็นแหล่งที่พักผ่อนเล่นสกีในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน ซึ่งจะมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดเวลา ระหว่างทางให้ท่านนั่งรถชมวิวทิวทัศน์อันสวยงาม
แวะชมป้อมปราการอนานูรี (Ananuri Fortress) ป้อมปราการที่มีความเก่าแก่ของประเทศจอร์เจีย สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16-17 ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Aragvi หนึ่งในแม่น้ำสายสำคัญของประเทศจอร์เจียจากมุมสูง มีทิวทัศน์ความสวยงามของอ่างเก็บน้ำซินวาลี (ZHINVALI RESERVOIR) และยังมีเขื่อนซึ่งเป็นสถานที่ที่สำคัญสำหรับนำน้ำที่เก็บไว้ส่งต่อไปยังเมืองหลวง พร้อมใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า ที่ทำให้ชาวเมืองทบิลิซีมีน้ำไว้ดื่มใช้ ร่องรอยของซากกำแพงที่ล้อมรอบป้อมปราการแห่งนี้เปรียบเสมือนม่านที่ซ่อนเร้นความงดงามของโบสถ์ 2 หลัง ที่เป็นโบสถ์เก่าแก่ 2 หลัง คือโบสถ์เก่าแก่แห่งพระนางแมรี่ผู้บริสุทธิ์ (The older Church of the Virgin) ส่วนอีกโบสถ์คือโบสถ์ยิ่งใหญ่แห่งอัสสัมชัญ
แวะจุดถ่ายรูปแบบพาโนรามา 360 องศา ณ อนุสาวรีย์มิตรภาพรัสเซีย-จอร์เจีย (Russia-Georgia Friendship Monument) เป็นอนุสาวรีย์ที่โครงสร้างทั้งหมดทำจากหินและคอนกรีตทรงกลมขนาดใหญ่ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1983 เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 200 ปี ของสนธิสัญญา Georgievsk ภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกสีสันสดใส บอกเล่าถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของชาวรัสเซียและชาวจอร์เจียเอาไว้ อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งตระหง่านอยู่บนหุบเขา สามารถชมวิวได้แบบพาโนรามา 360 องศา และยังสามารถมองเห็นหุบเขาปีศาจ (Devil’s Valley) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาคอเคซัส
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางไปยังเมืองมิชเคห์ตา (Mtskheta) เมืองเล็กๆ ที่มีภูมิประเทศอันสวยงาม และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย มีอายุกว่า 3,000 ปี เคยเป็นเมืองหลวงเก่า เนื่องจากมีโบราณสถานทางด้านประวัติศาสตร์มากมายหลายแห่ง ในปี ค.ศ.1994 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานแห่งเมืองมิชเคห์ตาให้เป็นมรดกโลก ความพิเศษอีกอย่างของเมืองนี้ก็คือจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำ 2 สาย คือแม่น้ำอักราวิ (Aragvi) และแม่น้ำมิกวาริ (Mtkvari) ซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีสีต่างกันอีกด้วย กลายเป็นภาพแปลกตาเมื่อยามมารวมตัวกัน
วิหารจวารี (Jvari Monastery - วิหารแห่งไม้กางเขน) ศาสนสถานที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่ง เป็นโบสถ์ไม้กางเขนอันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาคริสต์นิกายออร์โธด็อกซ์ อายุกว่า 1,500 ปีที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาริมน้ำ และยังเป็นต้นแบบให้กับโบสถ์วิหารมากมายทั่วทั้งจอร์เจีย สง่างามและทรงพลังจนกลายเป็นต้นกำเนิดของตำนานทะเลสาบแห่งน้ำตา (ปัจจุบันไม้กางเขนในมหาวิหารไม่ใช่ของเก่าแต่ดั้งเดิม มีเพียงฐานหินที่ตั้งอยู่ ยังเป็นของเก่าแต่ดั้งเดิม)
วิหารสเวติสโคเวลี (Svetitskhoveli Cathedral) ซึ่งคำว่า sveti หมายถึง "เสา" และ tskhoveli หมายถึง "ชีวิต" เรียกง่ายๆรวมกันก็คือวิหารเสามีชีวิต สิ่งก่อสร้างยุคโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย สร้างราวศตวรรษที่ 11 เป็นศูนย์กลางที่ทำให้ชาวจอร์เจียเปลี่ยนความเชื่อและหันมานับถือศาสนาคริสต์ และให้ศาสนาคริสต์มาเป็นศาสนาประจำชาติของจอร์เจียเมื่อปี ค.ศ.337 เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังเส้นผมของพระเยซูก่อนที่จะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน วิหารแห่งนี้ยังเคยเป็นที่ประกอบพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์ประเทศจอร์เจีย และเป็นที่ฝังพระศพของกษัตริย์ถึง 10 พระองค์อีกด้วย
ออกเดินทางสู่ เมืองกอรี (GORI) เมืองโบราณในหินที่ตั้งอยู่บนเนินเขา และเป็นเมืองบ้านเกิดของท่านโจเซฟ สตาลิน ผู้นำคนสำคัญของสหภาพโซเวียต ในยุค 1920 จนถึง 1953 เป็นผู้ที่พาให้โซเวียต ก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจของโลกในช่วงเวลานั้น
ชมเมืองถ้ำโบราณอุพลิสชิเค (Uplistsikhe) ตามภาษาจอร์เจียน แปลว่า “ป้อมปราการของขุนนาง” สัญลักษณ์ของความโบราณและความเป็นเอกลักษณ์ของจอร์เจีย อายุกว่า 3,000 ปีแล้ว เมืองนี้ใช้การสร้างโดยเจาะภูเขาหินจนลึกเข้าไปเป็นถ้ำ และมีการอยู่อาศัยกันจนเป็นชุมชนใหญ่ มีทั้งที่พักอาศัย ร้านค้า โบสถ์ คุก ฯลฯ รอบๆ เมืองยังมีวิวเทือกเขา และแม่น้ำมิกวาริที่สวยงามด้วยเมืองถ้ำ ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยต้นยุคเหล็ก จนถึงปลายยุคกลาง ที่ให้กลิ่นอายผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมของดินแดนอนาโตเลียของตุรกี ผสมผสานกับดินแดนเปอร์เซียของอิหร่าน โดยนักโบราณคดีได้สันนิษฐานว่าที่นี่ถือเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ของท่านสตาลิน (The Joseph Stalin Museum) ผู้นำคนสำคัญของสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวในวัยเด็ก และข้าวของเครื่องใช้ของท่านสตาลินเอาไว้ ของที่หาชมได้แค่ที่นี่คือ เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งเลนินของสตาลิน (Order of Lenin), death mask ของสตาลิน รวมไปถึงบ้านหลังจริงที่ท่านสตาลินเกิดและอาศัยในวัยเด็ก และที่นี่ยังมีการจัดโชว์ “โบกี้รถไฟ”หรือตู้รถไฟที่ท่านสตาลินใช้ในการเดินทางในสมัยที่ยังดำรงตำแหน่งผู้นำ ซึ่งตู้รถไฟนี้มีความพิเศษคือถูกทำขึ้นมาโดยเฉพาะ ภายนอกบุหุ้มด้วยเกราะกันกระสุนนั่นทำให้ตู้รถไฟนี้มีน้ำหนักมากถึง 80 ตันเลยทีเดียว
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบอร์โจมี (BORJOMI) แหล่งกำเนิดของน้ำแร่ธรรมชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นเมืองพักตากอากาศเล็กๆ ในหุบเขาทางตอนใต้ของประเทศจอร์เจีย น้ำแร่ที่เมืองนี้ได้มีการค้นพบว่าช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารและโรคเบาหวานได้ (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง)
ชมสวนบอร์โจมี (BORJOMI CITY PARK) สถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนของชาวเมืองบอร์โจมีที่นิยมมาเดินเล่นและผ่อนคลายโดยการแช่น้ำแร่ในวันหยุด จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้าสู่จุดชมวิวบนหน้าผาเหนือสวนบอร์โจมี
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่เมืองบาทูมี (Batumi) เมืองขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศรองจากกรุงทบิลิซี และเป็นเมืองตากอากาศชายทะเลดำของจอร์เจียและมีท่าเรือสำคัญขนาดใหญ่ เมืองบาทูมีได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสีสันยามราตรี และเป็นเมืองที่ทันสมัยมากที่สุดในประเทศจอร์เจีย ภายในเมืองก็มีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมและสมัยใหม่ไว้อย่างลงตัว (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)
นำท่านชมย่าน จัตุรัสยุโรป Europe Square จัตุรัสใจกลางเมืองที่รายล้อมไปด้วยตึกสูง เป็นย่านที่คึกครื้นของผู้คนออกมาจับจ่ายเป็นแหล่งรวมสินค้ามากมาย
จัตุรัสปิอาซซ่า Piazza Square ใจกลางเมืองบาทูมี จัตุรัสสำคัญของเมืองที่สร้างขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากจัตุรัสที่ประเทศอิตาลี ในปี 2009 โดยสถาปนิกชาวจอร์เจียผู้โด่งดัง Vazha Orbeladze เป็นการผสมผสานสไตล์และเทรนด์ที่แตกต่างกันออกไปอย่างมีเอกลักษณ์ ปัจจุบันเป็นแหล่งสถานบันเทิงแห่งใหม่ มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และอื่นๆที่น่าสนใจมากมาย ชมน้ำพุที่สวยงาม กลางจัตุรัส ถนน BOULEVARD
ประติมากรรมคู่รัก Ali & Nano มีความสูงถึง 7 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่ใกล้ทะเลดำ สัญลักษณ์ที่แสดงถึงความรักของหญิงชาวจอร์เจียกับหนุ่มอาเซอร์ไบจันตัวละครจากนวนิยายที่โคตรดังในจอร์เจีย ความพิเศษของรูปปั้นสองตัวนี้คือ สามารถเคลื่อนเข้าออก เข้าหากันทุกๆ 6-8 นาที เหมือนกำลังเข้าโผกอดกันแสดงความรักตลอดเวลา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางกลับสู่เมืองทบิลิซี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
อนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์จอร์เจีย (The Chronicle of Georgia) หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองทบิลิซี ออกแบบโดย Zurab Tsereteli สถาปนิกชื่อดังและจิตรกรประติมากรชาวจอร์เจีย – รัสเซียสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1985 ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง 3,000 ปีแห่งอำนาจอธิปไตยของจอร์เจีย และ 2,000 ปีแห่งศาสนาคริสต์ในจอร์เจีย มีลักษณะเป็นแท่งหินสีดําขนาดใหญ่ แกะสลักเป็นรูปต่างๆที่สื่อถึงเรื่องราวในอดีตของประเทศจอร์เจีย ประกอบด้วยแท่งเสายักษ์ 16 ต้น แต่ละต้นสูงถึง 35 เมตร แต่ละต้นจะแกะสลักลวดลายต่างๆที่บอกเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของจอร์เจีย
โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนล่างสุดเป็นเรื่องราวในพระคัมภีร์ศาสนาคริสต์ ส่วนกลางเป็นเรื่องราวของข้าราชการชนชั้นสูง และชั้นบนสุดบอกเล่าถึงเหตุการณ์สำคัญของจอร์เจีย ท่านสามารถชมวิวเมืองจากมุมสูงได้จากสถานที่แห่งนี้
จากนั้น นำท่านเดินเล่นชม ตลาดในสวน Artist bazaar and painters แหล่งรวมรวมงานศิลปะ ตลาดแห่งนี้มีสินค้าของมือสองต่างๆมากหมาย ให้ท่านได้เดินเล่นชมความชิคตามอัธยาศัย จากนั้น นำท่านเดินเล่นถนนคนเดินรุสทาเวลี Rustaveli Avenue เดิมชื่อถนนโกโลวิน ตั้งชื่อตามกวีชาวจอร์เจียในยุคกลาง โชตา รุสทาเวลี เป็นวอร์คกิ้งสตรีทที่สำคัญของเมืองทบิลิซีที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามเรียงรายอยู่ตลอดสองข้างทาง แหล่งรวมสินค้ามากมาย ทั้งของฝาก ของที่ระลึก มีร้านอาหารชื่อ Samikitno ที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง ด้านหน้าของร้านจะมีป้าย “I Love Tbilisi“ เหมือนเป็นแลนด์มาร์กที่ต้องมาถ่ายรูป ให้ท่านอิสระชอปปิ้งตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองซิกนากิ (Slghnaghi) เมืองที่มีขนาดเล็กที่สุดเมืองหนึ่งของจอร์เจีย ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่อันสวยงามและสุดโรแมนติกจนถูกยกให้เป็นเมืองแห่งความรัก (City of Love) เพราะมีคู่รักหลายคู่เดินทางมาแต่งงานกันที่เมืองนี้ เมืองแห่งนี้ยังคงเสน่ห์กลิ่นอายความคลาสสิกจากยุคสมัยก่อนเป็นอย่างดี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
ชมวิหารบอดบี (Bodbe's St. Nino's Convent Cathedral) ซึ่งเป็นวิหารของชาวจอร์เจียนที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายออโธดอกซ์ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 และมีการต่อเติมขึ้นมาอีกครั้ง ต่อมาในศตวรรษที่ 17 ก็ได้มีการ สร้างต่อเติมขึ้นมาอีก ปัจจุบันมีคริสตศาสนิกชนเดินทางมาแสวงบุญกันที่นี่อยู่ตลอด
ชมกำแพงโบราณซิกนากิ (Sighnaghi Wall) ที่เหลือเพียงแห่งเดียวในประเทศจอร์เจีย มีความยาวถึง 5 กิโลเมตร และมีหอคอย 23 หลัง สร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์จอร์เจีย อีเรเคิลที่ 2 ในปี ค.ศ. 1770 ซึ่งนับเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัตศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในเขตคาเคติ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย แวะเมืองควาเรลี (Kvareli) ชื่อเมืองแปลว่า “ไวน์” ซึ่งเป็น 1 ในเขตที่เป็นแหล่งผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงของประเทศจอร์เจีย มีดินฟ้าอากาศเหมาะต่อการปลูกองุ่นทำไวน์ โดยมีการทำอุโมงค์สกัดเข้าไปในภูเขาขนาดมหึมาจำนวน 15 อุโมงค์และมีเส้นทางเชื่อมแต่ละอุโมงค์ เพื่อให้เป็นที่เก็บไวน์ในอุณหภูมิเหมาะสม ฟรี! Wine Testing ให้ท่านทดลองชิมไวน์ และเลือกซื้อไวน์ที่ท่านชื่นชอบในราคาย่อมเยาว์ ได้ตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองทบิลีซี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ทบิลิซี (Holy Trinity Cathedral of Tbilisi) หรือที่ชาวจอร์เจียเรียกกันว่า มหาวิหารซมินดาซามีบา (Tsminda Sameba Cathedral) เป็นโบสถ์อีสเทิร์นออร์โธด็อกซ์ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1995-2004 โดยมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ทบิลิซีมีความสูงเป็นอันดับ 3 ของโลกอีกด้วย ภายในมหาวิหารยังได้รับการออกแบบตามหลักสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของจอร์เจียที่มีความวิจิตรสวยงาม
สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of Peace) เป็นสะพานคนเดินรูปโค้ง เชื่อมต่อเขตเมืองเก่ากับเขตเมืองใหม่
สร้างขึ้นเมื่อปี 2010 โดย Michele De Lucchi สถาปนิกชาวอิตาเลียน ตัวสะพานสร้างด้วยเหล็กและกระจกใส รูปร่างโค้งคล้าคันศร ยาว 150 เมตร ประดับด้วยไฟ LED จำนวนมากเหนือแม่น้ำคูรา อยู่ในตัวเมืองทบิลิซี นับว่าเป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าและทันสมัยของเมืองทบิลิซี
นั่งกระเช้าชมเสน่ห์ของเมืองทบิลิซี ที่มีการรักษาเอกลักษณ์ของเมืองเก่าที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 5 ควบคู่ไปกับการพัฒนาบ้านเมืองให้ทันสมัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ชมอาคารบ้านเรือนที่สวยงาม ตัวบ้านทาสีพาสเทล หลังคาบ้านโทนสีส้มสดใส จากนั้นถึงด้านบนนำท่านชมป้อมนาริกาลา (Narikala Fortress) ป้อมปราการขนาดใหญ่และเก่าแก่ นักประวัติศาสตร์ยกย่องว่าป้อมนาริกาลาเป็นป้อมแห่งหนึ่งที่แข็งแกร่งและตีได้ยากที่สุด โดยชื่อ NARI-KALA เป็นภาษาเปอร์เซีย มีความหมายว่า ป้อมที่ไม่สามารถตีแตกได้ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 แต่เดิมนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นปกป้องเมืองทบิลิซีจากยามศึกสงครามก่อนที่ในปัจจุบันจะกลายเป็นแหล่งแลนด์มาร์กที่สำคัญของเมืองทบิลิซี
ประติมากรรมรูปปั้น Mother of Georgia อนุสาวรีย์พระแม่แห่งจอร์เจีย เป็นรูปปั้นหญิงสาวสูง 20 เมตร
ตั้งตระหง่านบนยอดเขาโซโลลากิ (Solo Laki Hill) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งจิตวิญญาณของชาวจอร์เจีย รูปปั้นนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1958 เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองการก่อตั้งกรุงทลิบิซีครบรอบ 1500 ปี รูปปั้นนี้ออกแบบโดยประติมากรชาวจอร์เจีย มีความสูง20เมตร ทำด้วยอลูมิเนียม ลักษณะของรูปปั้นเป็นสตรีในชุดพื้นเมือง มือขวาถือดาบ มือซ้ายถือแก้วไวน์ โดยที่แก้วไวน์หมายถึงผู้มาเยือนที่เป็นมิตร ชาวจอร์เจียก็พร้อมที่จะผูกมิตรด้วยเครื่องดื่มที่เก่าแก่ของประเทศอย่างไวน์ชั้นดี แต่ถ้าหากมาเยือนหมายที่จะเป็นศัตรู ดาบในมือก็พร้อมที่จะปกป้องไม่ให้ใครมารุกราน
แวะถ่ายรูปหน้า โรงอาบน้ำโบราณ อะบาโนตูบานี (Abanotubani Tbilisi Sulfur Baths) ย่านอะบาโนตูบานี (Abanotubani) หรือ ย่าน Sulfur Baths ย่านเมืองเก่าที่เป็นแหล่งของน้ำแร่ซัลเฟอร์ ว่ากันว่าน้ำพุร้อนของที่นี่มีแร่ธาตุหลายอย่าง ที่ทำให้ผิวพรรณของเราเปล่งปลั่งชมโรงอาบน้ำโบราณที่มีเอกลักษณ์เป็นหลังคาโดมสีน้ำตาล มีซุ้มประดับตกแต่งด้วยลวดลายสีน้ำเงิน ดูวิจิตรงดงามมองไปยังด้านหลังจะเห็นวิวสุดอลังของป้อมปราการนาริกาลา
นำท่านชมน้ำตกเลกทากิวี (Leghvtakhevi Waterfall) หนึ่งในความมหัศจรรย์และความน่าสนใจของนครทบิลิซีนั้นก็คือที่กลางเมืองแห่งนี้มีน้ำตกอยู่ด้วย เป็นน้ำตกที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็มีน้ำตลอดทั้งปี แถมตลอดเส้นทางการเดินก็ยังมีสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่สวยงาม, มีการแสดงที่น่าสนใจของคนจอร์เจียให้เราดูเป็นระยะๆ และที่พิเศษสุดๆ ก็คือจะมี Golden Bridge หรือสะพานข้ามลำธารที่มีกุญแจสีทองคล้องกันจนเต็มสะพานด้วย
เที่ยง อิสระช้อปปิ้งที่ ห้างอีสต์พอยต์ (East Point) เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของเมืองทบิลิซี เป็นแหล่งซื้อของฝากต่างๆของเมืองทบิลิซี มีสินค้าแบรนด์เนมมากมายให้ได้ช้อปปิ้งกว่า 150 แบรนด์ อาทิ adidas, ALDO, Bershka, Columbia, Charles & Keith, Converse, H&M, L'Oréal และอื่น ๆ อีกมากมาย มีร้านอาหารกว่า 20 ร้าน
มีทั้งขนม ของที่ระลึก เสื้อผ้า เครื่องประดับของเมืองจอร์เจียอีกมากมาย อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินทบิลิซี
17.20 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติชาร์จาห์ โดยสายการบินสายการบินแอร์อาราเบีย Air Arabia เที่ยวบินที่ G9 294
20.25 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติชาร์จาห์ (รอเวลาสำหรับเปลี่ยนเที่ยวบิน 2 ชั่วโมง)
22.20 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินสายการบินแอร์อาราเบีย Air Arabia เที่ยวบินที่ G9 821 ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง
07.20 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
เลขที่ 9/50 ซอยวิภาวดีรังสิต 64 แยก 13 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ