ทัวร์ปากีสถาน GRAND AFGHANISTAN ปากีสถาน เจาะลึกอัฟกานิสถาน เที่ยว 4 เมืองไฮไลท์ และหุบเขาบามียาน

ทัวร์ปากีสถาน GRAND AFGHANISTAN ปากีสถาน เจาะลึกอัฟกานิสถาน เที่ยว 4 เมืองไฮไลท์ และหุบเขาบามียาน - บริษัท โรมิโอ โวยาจ จำกัด
รหัสทัวร์
159-81814
วันที่เดินทาง
พ.ค.68
ช่วงเวลา
16 วัน 14 คืน
เดินทางโดย
Thai Airways (TG)

ไฮไลท์

  • แวะเมืองอิสลามาบัด ปากีสถาน 
  • เมืองคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน
  • เมืองฮารัต เมืองเพชรแห่งเอเชีย
  • เมืองมะซารีซะรีฟ และ เมืองโบราณ ทาซกูร์กาน 
  • พระพุทธแห่งบามียาน - พระพุทธรูปแกะสลักฝาผนัง ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
  • อุทยานแห่งชาติแบนด์-อี อาเมียร์ ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสายนํ้าที่ไหลลงมาจากสวรรค์

 

เลือกวันเดินทาง

วันเดินทางไป - กลับ ผู้ใหญ่ท่านละ พักเดี่ยวเพิ่มเงิน ราคาเด็กท่านละ
09 พ.ค. 68 - 24 พ.ค. 68209,900 บาท25,000 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง

แผนการเดินทาง

15.00 น.        คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 4 แถว E เคาน์เตอร์สายการบิน การบินไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัท คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก

19.00 น.        เดินทางสู่ท่าอากาศยานเมืองอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน โดยสายการบิน การบินไทย เที่ยวบินที่ TG349 ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง 10 นาที

22.10 น.        เดินทางถึงท่าอากาศยานเมืองอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน (เวลาปากีสถานช้ากว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง) รับกระเป๋าเดินทางและพบกับเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลท่านในการเดินทาง

จากนั้น          พาท่านเดินทางเข้าโรงแรมที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

ที่พัก HILL VIEW HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

จากนั้น          พาท่านเดินทางไปยัง สถานทูตอัฟกานิสถานประจำอิสลามาบัด เพื่อทำวีซ่าเข้าประเทศอัฟกานิสถาน

เที่ยง            รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร

จากนั้น          พาท่านเที่ยวชม มัสยิดไฟซอล (Faisal Mosque) เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศปากีสถาน ตั่งอยู่ที่กรุงอิสลามมาบัด มีรูปร่างเหมือนเต็นท์เบดูอินที่พบเจอได้ในทะเลทราย ตั้งชื่อเพื่อให้เกียรติแก่กษัตริย์ ไฟซอล บิล อับดุล อาซีส (Faisal bin Abdul Aziz) ภายในสามารถจุคนได้กว่า 100,000 คน

จากนั้น          เที่ยวชม อนุสาวรีย์ปากีสถาน Pakistan Monument เป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติและพิพิธภัณฑ์มรดกตั้งอยู่บนเนิน Shakarparian ตะวันตกในกรุงอิสลามาบัดประเทศปากีสถาน อนุสาวรีย์ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีของชาวปากีสถาน ความสูงของอนุสาวรีย์ที่มองเห็นได้จากทั่วบริเวณเมืองหลวงของกรุงอิสลามาบัด

เย็น              รับประทานอาหารเย็น และเดินทางเข้าโรงแรมที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

ที่พัก HILL VIEW HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

จากนั้น          เดินทางไปรับเอกสารวีซ่าอัฟกานิสถาน

11.00 น.        รับประทานอาหารกลางวัน และเดินทางไปยังสนามบินอิสลามาบัด เพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อไปยังเมืองคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน

16.30 น.        เดินทางสู่สนามบินกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน โดยสายการบิน Kam Air เที่ยวบินที่ RQ928 ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง

17.00 น.        เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติ ฮามิด การ์ไซ เมืองคาบูล (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าเวลาประเทศไทย 2 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองหลวงของประเทศอัฟกานิสถาน ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและพบกับเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่จะคอยดูแลท่านตลอดการเดินทาง

จากนั้น          เดินทางไปยังโรงแรมที่พัก รับประทานอาหารเย็น เช็คอินห้องพัก และพักผ่อนตามอัธยาศัย

ที่พัก Kabul Serena Hotel หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ เกสต์เฮ้าส์ที่พัก

จากนั้น          พาท่านเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้นแห่งหนึ่งของเมืองนี้ ระหว่างทางท่านจะได้พบกับความเป็นอยู่ของชาวอัฟกานิสถานในสองข้างทางที่รถเคลื่อนผ่าน ความเป็นอยู่ที่ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปตลอด 30 ปีที่ผ่านมาในการจราจรที่คับคั่งและเขตพื้นที่อันตรายในบางจุด แต่ในความน่ากลัวนี้ยังคงมีอัญมณีที่สมบูรณ์แบบที่รอคอยให้ท่านมาชื่นชมความงามของเมืองอันเป็นที่รักของจักรพรรดิบาบูร์แห่งจักรวรรดิโมกุล พาท่านเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์คาบูล Kabul Museum  เป็นระยะเวลานานกว่า 1,000 ปี ที่ดินแดนอัฟกานิสถาน เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางแพรไหมที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์กันระหว่างอินเดีย อิหร่าน และ เอเชียกลาง ด้วยเหตุนี้เอง ณ ดินแดนแห่งนี้ จึงอุดมไปด้วยโบราณวัตถุอันทรงคุณค่า ซึ่งได้มีการขุดค้นและเก็บรักษาไว้ พิพิธภัณฑ์กรุงคาบูลก็เป็นสถานที่หนึ่งที่เก็บรักษาโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ของเอเชียกลางเหล่านั้นไว้ มีโบราณวัตถุหลายชิ้นด้วยกัน ที่มีอายุเก่าแก่ไปจนถึงยุคก่อนประวัติศาสตร์ และชุดจัดแสดงที่ใหญ่ที่สุดชุดหนึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือ ชุดกลุ่มโบราณวัตถุจากเมืองบากรัม แต่อย่างไรก็ตาม สมบัติอันทรงคุณค่าที่กล่าวถึงข้างต้นนี้ ต่อมาได้ถูกโจรกรรมไปอันเนื่องมาจากพิพิธภัณฑ์ถูกโจมตีด้วยระเบิดในปี ค.ศ.1993 ในตอนแรกนั้น มีเพียงโบราณวัตถุที่จัดแสดงอยู่บริเวณระเบียงทางเดินชั้นบนหายไปเท่านั้น โบราณวัตถุที่เหลืออยู่บนชั้นบน จึงได้ถูกขนลงมาเก็บไว้ชั้นล่าง ซึ่งมีประตูเหล็กป้องกันไว้ ต่อมา ในปี ค.ศ. 1994 องค์การสหประชาชาติ ได้พยายามที่จะหยุดยั้งพวกหัวขโมย จึงได้เข้ามาดำเนินการซ่อมแซมประตูพิพิธภัณฑ์เสียใหม่ และก่ออิฐซ่อมแซมหน้าต่างทุกบาน แต่อย่างไรก็ตาม ความพยายามดังกล่าวนี้ ไม่ได้ผลแต่อย่างใด เนื่องจากโบราณวัตถุยังคงสูญหายอยู่อย่างต่อเนื่องไปจนถึงกว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ ของโบราณวัตถุที่เคยมี มีรายงานว่านักสะสมโบราณวัตถุ และนักค้าโบราณวัตถุจากแดนไกล เช่น จากประเทศญี่ปุ่น ได้ซื้อโบราณวัตถุที่ถูกขโมยออกมาเหล่านี้ไป ทำให้ขณะนี้ โบราณวัตถุที่เคยจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ กระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก และสร้างรายได้อันมหาศาลให้แก่พวกอาชญากร (รูปด้านบน รูขนาดใหญ่ตรงขอบหน้าต่างที่เกิดจากระเบิดซึ่งเป็นช่องทางให้หัวขโมยเข้าไปโจรกรรมโบราณวัตถุ รูปด้านล่าง คือรูปหลังบูรณะใหม่)

จากนั้น          พาท่านชม พระราชวังดารุล อามาน Darulaman Palace  พระราชวังที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของอัฟกานิสถาน อยู่ห่างจากตัวเมืองคาบูลมา 16 กิโลเมตรทางตะวันตกเฉียงใต้ อามันนูลาห์ข่าน ผู้ปกครองอัฟกานิสถานในช่วงปี ค.ศ. 1919-1929 ได้มาการสั่งให้สร้างพระราชวังแห่งนี้เพื่อเป็นจุดศูนย์รวมของเมืองและเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ของประเทศ ออกแบบตามการสร้างแบบยุโรปและสวยงามดั่งอัญมนีบนมงกุฏ แต่เรื่องน่าเศร้าคือเมืองแห่งนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นและพระราชวังแห่งนี้ก็ถูกปล่อยร้างเนื่องจากผู้ปกครองคนใหม่ได้ล้มอำนาจของอามันนูลาห์และปล่อยให้จักรวรรดิล่มสบายไป จากนั้นในปี ค.ศ. 1970 พระราชวังแห่งนี้ถูกเผาและเป็นที่พักพิงของกลุ่มชาวมุสลิมในปี ค.ศ. 1990 และเป็นเป้าหมายของกลุ่มหัวรุนแรงตอลีบันในปี ค.ศ. 2012 และเปลี่ยนแปลงจากพระราชวังที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของโลกใหม่ที่สวยงามและการเปลี่ยนแปลงที่ดีกลับถูกทำลายอย่างโหดร้ายจากกลุ่มหัวรุนแรง ในปัจจุบันท่านจะได้เห็นพระราชวังที่รอวันพังทลายลงแต่ยังคงเหลือไว้ซึ่งกำแพงสูงตระหง่านที่จารึกไว้ซึ่งประวัติศาสตร์ของอัฟกานิสถาน

กลางวัน         รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

จากนั้น          พาท่านเดินเล่นที่ ตลาดนกคา ฟาโรชิ Ka Faroshi Bird Market ตลาดที่เมื่อท่านย่างกรายเข้าไปแล้วท่านจะรู้สึกเหมือนตัวเองเดินทางย้อนเวลาไปเมื่อร้อยปีก่อน ตลาดแห่งนี้ไม่โดนทำลายโดยสงครามและยังไม่มีความทันสมัยเข้ามาถึงในบริเวณแห่งนี้ นอกจากนกแล้ว ตลาดแห่งนี้ยังขายม้าและกระต่ายอยู่ตามสองข้างทาง นกที่มีฉายาว่า “ราชาแห่งนก” คือนกกระทาชน (เหมือนไก่ชนบ้านเรา) กิจกรรมชนนกกระทาจะเกิดขึ้นทุกๆ วันศุกร์เช้า ใช้เวลาในการตีกันเพียงครู่เดียวเท่านั้น เพราะไม่ต้องการให้นกบาดเจ็บรุนแรงเนื่องจากราคาของนกชนิดนี้ในตลาดนกราคาสูงมากจึงไม่มีใครอยากเสี่ยงกับชีวิตของนก และการพนันเป็นเรื่องธรรมดาของที่นี่หากมีนกที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้ครั้งนี้และคาดการณ์ว่าจะไม่สามารถต่อสู้ได้อีก ชีวิตของมันก็จะจบลงในหม้อ

จากนั้น          พาท่านเดินทางกลับโรงแรมที่พัก และรับประทานอาหารเย็น พักผ่อนตามอัธยาศัย (ไม่แนะนำให้ออกไปเดินเล่นนอกที่พัก)

ที่พัก Kabul Serena Hotel หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว

เช้าตรู่           ปลุกท่านแต่เช้าตรู่และรับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

08.00 น.        เดินทางไปยัง เมืองฮารัต Herat โดยสายการบินอาเรียนาอัฟกัน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ FG251

09.10 น.        เดินทางถึง เมืองฮารัต เมืองขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศอัฟกานิสถานตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ มีฉายาว่า Nagin Aseeya หรือ เพชรแห่งเอเชีย เมืองนี้มีอายุมากกว่า 3,000 ปี ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้มีความสำคัญมาก เมืองนี้ถูกทำลายอยู่หลายครั้ง แต่ยังคงได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่อยู่ตลอดเวลา ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 เมืองนี้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากเนื่องจากมีการพัฒนาโดยอิสมาอิล ข่าน ผู้บัญชาการกองพลท้องถิ่นของญิฮาด อิสมาอิล ข่านปกครองเมืองฮารัตจนกระทั่งถูกล้มการปกครองและยึดพื้นที่โดยกลุ่มหัวรุนแรงตอลีบัน จนกระทั่งการล่มสลายของกลุ่มกองกำลังหัวรุนแรง อิสมาอิล ข่าน ได้กลับมาทำหน้าที่ผู้ว่าอีกครั้งและเริ่มสานงานต่อ ที่ฮารัตผู้คนจะเป็นมิตรมากกว่าที่อื่นและสามารถพูดภาษาอังกฤษได้และเป็นจังหวัดที่ปลอดภัยกว่าจังหวัดอื่นๆ

จากนั้น          พาท่านเดินทางเที่ยวชมเมืองฮารัต เมืองนี้ได้รับการบำรุงรักษาโดยกลุ่มเอเจนซี่ที่คอยบำรุงรักษาโบราณสถานและโบราณวัตถุหลายประเทศทั่วโลก ตามถนนที่รถขับผ่านท่านจะได้พบกับสิ่งก่อสร้างและช่างฝีมือมากมายหลายแขนงที่คอยแต่งแต้มสีสันให้กับเมืองนี้

กลางวัน         รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร

ต่อมา            มุ่งหน้าไปยัง สถาปัตยกรรมมาซุลห์ Musalla Complex เป็นหอคอยที่สร้างขึ้นจากหินมีลักษณะคล้ายทรงกระบอก สถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่มัสยิดแบบอิสลามที่สวยที่สุดในประเทศอัฟกานิสถานโดยมีพระนาง Gowhar Shad ภรรยาของ Shah Rukh สตรีที่โดดเด่นอีกคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ ที่ Musalla Complex แห่งนี้ยังประกอบไปด้วย โรงเรียนมุสลิม สุเหร่า และหอสูงยอดแหลมกว่า 20 หอ สิ่งก่อสร้างเหล่านี้เป็นผลงานชิ้นเอกของพระนาง Gowhar Shad ในปัจจุบันนี้เป็นสุสานเก็บศพของพระนาง Gowhar Shad และมีหลงเหลือเพียงสุสาน และหอสูงยอดแห่งเพียง 5 หอเนื่องจากเวลาที่ผ่านมานานและผลกระทบจากแผ่นดินไหวและการรุกรานของทหารโซเวียต สถานที่แห่งนี้สวยงามยามกลางวันแต่กลับกลายเป็นสถานที่สุดหลอนยามค่ำคืน

ค่ำ               พาท่านรับประทานอาหารค่ำ และเช็คอินโรงแรม

ที่พัก Nazary Hotel ระดับ 4 ดาว

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

จากนั้น          สถานที่แรกที่เราจะพาท่านไปคือ มัสยิดวันศุกร์ Friday Mosque หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า มัสยิดอี-เจมี่ แห่งฮารัต (Masjid-i Jami' of Herat) เป็นมัสยิดหลวงในฮารัต ซึ่งมีที่มาจากการที่มัสยิดจะมีกิจกรรมให้ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามชุมนุมกันเพื่อกล่าวบทสวดสรรเสริญองค์อัลลอฮ์ ดำเนินการก่อสร้างในปีคริสต์ศักราช 1404 - 1446 โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบอิสลามและปูกระเบื้องแบบตามจักรวรรดิตีมูร์และจักรวรรดิกอห์ริดและได้ชื่อว่าเป็นมัสยิดที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

กลางวัน         รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

จากนั้น          พาท่านชม ป้อมปราการฮารัต Herat Citadel หรือบางคนอาจเรียกว่า ป้อมปราการอเล็กซานเดอร์มหาราช ตั้งอยู่กลางเมืองฮารัต ย้อนไปเมื่อ 330 ปีก่อนคริสตศักราชตั้งแต่รัชสมัยของอเล็กซานเดอร์มหาราช เมื่ออเล็กซานเดอร์มหาราชและกองทัพของพระองค์เข้ามาปกครองหลังจากการสู้รบยุทธการที่กอกามีลา Battle of Gaugamela เป็นการสู้รบระหว่างทัพมาซิดอนร่วมกับสันนิบาตโครินธ์ นำโดยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชและทัพเปอร์เซีย นำโดยพระเจ้าดาไรอัสที่ 3 ยุทธการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของสงครามพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ป้อมปราการแห่งนี้ถูกใช้เป็นฐานทัพหลักในการสู้รบมากว่า 2,000 ปี ถึงจะถูกทำลายอยู่หลายครั้งแต่ก็ยังได้รับการบูรณะมาตลอดหลายศตวรรษ

จากนั้น         พาท่านรับประทานอาหารค่ำ และกลับโรงแรมที่พัก

ที่พัก Nazary Hotel ระดับ 4 ดาว

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

จากนั้น          พาท่านเดินทางไปยังสนามบินเพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองมะซารีชะรีฟ เส้นทางการบิน ฮารัต – คาบูล – มะซารีชะรีฟ ใช้ไฟล์ทเช้า ใช้เวลาในการเดินทาง 3-4 ชั่วโมง

เดินทางถึง      เมืองมะซารีชะรีฟ Mazar-e Sharif มะซารีชะรีฟเป็นศูนย์กลางภูมิภาคในภาคเหนือของประเทศ อยู่ใกล้กับอุซเบกิสถานและทาจิกิสถาน ยังเป็นเมืองที่มีอัตราการเจริญเติบโตด้านการก่อสร้างสูงสุดคือ 91% นับจากเมืองเอกของจังหวัดและ บริเวณขยับขยาย นอกเหนือจากขอบเขตเทศบาล แต่ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของย่านเมือง บริเวณรอบ ๆ มะซารีชะรีฟเป็นส่วนหนึ่งของเขตประวัติศาสตร์แห่งบริเวณเกรตเตอร์โคราซาน (greater Khorasan) ที่เคยอยู่ภายใต้การควบคุมของราชวงศ์ทาฮิริยะห์ ตามด้วยราชวงศ์ซัฟฟาริด ซามานิยะห์ กาสนาวิยะห์ กูริด ข่านอิล ตีมูร์ และจักรวรรดิข่านบูคารา ในกลางศตวรรษที่ 18 เมื่อเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิดุรรานีจากการทำสนธิสัญญาร่วมกันระหว่างมูราด เบคกับอาหมัด ชาห์ ดุรรานี ต่อมาในช่วงสงครามโซเวียตในคริสต์ทศวรรษ 1980 มีการใช้สนามบินมะซารีชะรีฟอย่างมาก จวบจนถึง ค.ศ. 2001 ถึงสงครามในปัจจุบัน

กลางวัน         พาท่านรับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

จากนั้น             พาท่านเดินทางไปยัง สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญประจำเมือง ได้แก่ ศาสนสถานเฮซเรต อาลี (Shrine of Hazrat Ali) ตั้งอยู่ในกลางเมืองมาซาร์ อี ชารีฟ สร้างขึ้นในรัชสมัยของราชวงศ์เซลจุค (Seljuq dynasty) โดยสุลต่านอะห์เมด ซานจาร์ ถูกทำลายในปีคริสต์ศักราช 1220 โดยกองทัพของจักรวรรดิมองโกล ต่อมาได้มีการบูรณะและก่อสร้างมัสยิดสีครามเพิ่มเติมจนแล้วเสร็จในปีคริสต์ศักราช 1481 โดยสุลต่าน ฮุสเซ็น มีร์ซา เบการาห์ ปัจจุบันกลายเป็นศาสนสถานและหลุมฝังศพของผู้นำทางการเมืองและศาสนา ว่ากันว่านักแสวงบุญทั้งหลายต้องมาแสวงบุญที่นี้ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต

เย็น              พาท่านรับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร

จากนั้น          พาท่านรับประทานอาหารค่ำ และเช็คอินโรงแรมที่พัก

ที่พัก Baran Imperatory  Hotel ระดับ 3 ดาว

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

จากนั้น          พาท่านเดินทางไปทางตอนใต้ของเมืองมะซาสู่ สแมนแกน Samangan ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง มีพื้นที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเทือกเขาฮินดูกูซ เป็นเมืองโบราณศูนย์กลางทางพุทธศาสนาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 4 และ 5 สถานที่ตั้งของสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะอยู่ในประเทศนี้ พาท่านเยี่ยมชม ทัคห์ อี โรสแตม (Takth i Rostam) ถํ้าหินเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 1,500 ปี เป็นศูนย์รวมของผลงานการแกะสลักเจดีย์หินโดยใช้สถาปัตยกรรมแบบพุทธศาสนานิกายเถรวาทและโบสถ์ลิลาเบล่าของประเทศเอธิโอเปีย

เที่ยง            รับประทานอาหารแบบปิคนิค

ได้เวลา          เดินทางกลับเมืองมะซารีชะรีฟ

จากนั้น          พาท่านรับประทานอาหารค่ำ และเดินทางกลับเข้าสู่โรงแรมที่พัก

ที่พัก Baran Imperatory  Hotel ระดับ 3 ดาว

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

จากนั้น          นำท่านแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญประจำเมือง ได้แก่ มัสยิดเก่าแก่อี โนห์ กอนแบด (Masjid E Noh Gonbad) ซากโบราณสถานที่คาดว่าสร้างขึ้นในปีคริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างกรีกและพุทธศาสนา ซึ่งในอดีตพื้นที่เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม รู้จักกันในนามเมืองบัลข์ (Balkh) และเป็นศูนย์กลางทางศาสนาพุทธ ศาสนาโซโรอัสเตอร์ (ศาสนาเอกเทวนิยมของอิหร่าน) และศาสนาอิสลาม

เที่ยง            รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเดินทางกลับเมืองคาบูล

16.25 น.        เดินทางสู่ คาบูล โดย Kam Air เที่ยวบินที่ 28 (ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง)

17.25 น.        เดินทางถึงสนามบิน คาบูล

จากนั้น          พาท่านเดินทางไปยังโรงแรมที่พัก เช็คอินโรงแรมที่พัก และรับประทานอาหารค่ำ จากนั้นให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

ที่พัก Kabul Serena Hotel หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

จากนั้น          พาท่านเดินทางไปยัง หุบเขาพันจ์เชอร์ Panjshir Valley เราจะใช้เวลาทั้งวันในการสำรวจหุบเขาอันน่าอัศจรรย์แห่งนี้ หุบเขามีแม่น้ำสายเล็กๆ พาดผ่านและเป็นสถานที่ที่อุดมสมบูรณ์มากและมีชื่อเสียงในเรื่องผลไม้ พื้นที่ล้อมรอบด้วยภูเขาน้อยใหญ่คอยเป็นกำแพงป้องกันภัยทางธรรมชาติได้อย่างดีเยี่ยม ในช่วงฤดูใบไม้ผลิเมื่อหมดหน้าหนาวและนำแข็งจากหิมะละลายลงมาจากยอดเขา ท่านจะได้พบกับทัศนียภาพที่สวยงามของต้นหญ้าสีเขียวอร่าม หุบเขาพันจ์เชอร์ที่ตั้งอยู่ไม่ห่างไกลจากเมืองหลวงคาบูลนั้นจึงเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่รักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาที่ประเทศอัฟกานิสถาน เรียกได้ว่าหุบเขาแห่งนี้เป็นแหล่งเติมพลังชั้นดีให้กับผู้มาเยือน

กลางวัน         รับประทานอาหารเที่ยงแบบปิกนิก

ให้เวลาท่านเดินเล่นในหุบเขาแห่งนี้ (อย่างระมัดระวัง) ได้เวลาเดินทางกลับคาบูล

ถึง               คาบูล รับประทานอาหารเย็น และเดินทางกลับโรงแรมที่พัก

ที่พัก Kabul Serena Hotel หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ เกสต์เฮ้าส์ที่พัก

จากนั้น          เดินทางไปยังอีกเมืองไฮไลท์ของประเทศอัฟกานิสถาน จังหวัดบามียาน ตั้งอยู่ในหุบเขาบามียาน ซึ่งมีแม่น้ำหล่อเลี้ยงประชาชน ด้านหนึ่งเป็นเขา ด้านหนึ่งเป็นหน้าผาสูงชันสลักเป็นพระยืน สภาพแวดล้อมของหุบเขา รายล้อมไปด้วยความแห้งแล้ง แต่ที่แห่งนี้อุดมไปด้วยทุ่งหญ้าและน้ำ ปัจจุบันเมืองบามียัน ใช่แต่เป็นสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการสู้รบเท่านั้น แต่มีความสำคัญเพราะเป็นสถานที่ที่มีโบราณสถานอีกทั้งโบราณวัตถุและร่องรอยประวัติศาสตร์ทางสังคมและศาสนาจำนวนมากอีกแห่งหนึ่ง ที่กลุ่มนักอนุรักษ์วัตถุทางโบราณคดีในปัจจุบันให้ความสนใจ ใช้เวลาในการดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ในอดีตพื้นที่จังหวัดบามียานถูกปกครองโดยจักรวรรดิมีดซ์ (Medes) ก่อนตกอยู่ในการปกครองของจักรวรรดิอะคีเมนิด (Achaemenid) ต่อมาในปี 330 ปีก่อนคริสต์ศักราช พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชได้เข้ายึดบริเวณนี้แต่ได้ละทิ้งไป ภายหลังจักรวรรดิเซลูซิดจึงเข้ามาปกครองต่อ ขณะนั้นพื้นที่ทางตอนใต้ของเทือกเขาฮินดูกูช ได้มีการเผยแผ่ศาสนาพุทธจากราชวงศ์เมารยะเข้ามา จึงมีการตั้งอารามพุทธศาสนาที่บามียาน ว่ากันว่าชื่อ บามียาน มาจากคำว่า "วรรมยาน" (varmayana) ที่แปลว่าสีในภาษาสันสกฤต ด้วยเหตุนี้จึงมีการก่อสร้างพระพุทธรูปขึ้นที่นี่จำนวนมาก แต่ก็ถูกกลุ่มกองกำลังตอลีบันทำลายไปมากเช่นกันในปี ค.ศ. 2001

ถึง               บามียาน พาท่านเยี่ยมชม พระพุทธรูปแห่งบามียาน Giant Buddhas เป็น "พระพุทธรูปแกะสลักฝาผนังที่ใหญ่ที่สุดในโลก" เป็นพระพุทธรูปยืนจำนวนสององค์ที่สลักอยู่บนหน้าผาสูงสองพันห้าร้อยเมตรในหุบผาบามียาน ณ จังหวัดบามียาน ในพื้นที่ฮาซาราจัตทางตอนกลางของประเทศอัฟกานิสถาน อันห่างจากกรุงคาบูลไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณสองร้อยสามสิบกิโลเมตร หมู่พระพุทธรูปนี้สถาปนาขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 10 ตามศิลปะแบบกรีกโบราณหมู่พระพุทธรูปนี้ถูกทำลายด้วยระเบิดไดนาไมต์เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2544 ตามคำสั่งของนายมุลลอฮ์ มุฮัมมัด อุมัร ประมุขของรัฐบาลฏอลิบาน ซึ่งให้เหตุผลว่ากฎหมายอิสลามไม่อนุญาตให้บูชารูปเคารพ ในขณะที่นานาประเทศต่างการประณามการกระทำของรัฐบาลตาลิบันอย่างรุนแรง เพราะหมู่พระพุทธรูปนี้มิใช่สมบัติของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่เป็น "มรดกโลก" อันเป็นสาธารณสมบัติและความภาคภูมิใจของคนทั้งโลก โดยญี่ปุ่นและสวิตเซอร์แลนด์ร่วมใจกันสนับสนุนให้มีการปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปนี้อีกครั้งหนึ่ง

พาท่านเดินชมรอบๆ สัมผัสไอของความเจริญทางพระพุทธศาสนาเมื่อครั้งยังไม่ถูกทำลาย ทั้งภายในและภายนอกถ้ำ

จากนั้น          เดินทางไปยัง หุบเขาดาร์ยา อัจดาฮาห์ Darya Ajdhahar หรือมีชื่อที่รู้จักกันในนาม หุบเขามังกร Valley of Dragon สถานที่แห่งนี้มีการก่อตัวของหินขนาดใหญ่ที่เชื่อกันว่าเป็นซากศพของมังกรที่ทำร้ายชาวบ้านที่อยู่อาศัยในละแวกนั้นมาตลอด จนกระทั่งฮาซรัด อาลี (Hazrat Ali) ลูกพี่ลูกน้องและลูกเขยของท่านศาสดาโมฮัมเหม็ด (Prophet Mohammed) ฆ่ามัน เรื่องราวดุจเทพนิยายข้างต้นนี้อ้างว่าเป็นเรื่องราวที่เล่าต่อกันมาจากหนึ่งในความทรงจำของนักบุญเซนต์จอร์จ หุบเขาดาร์ยา อัจดาฮาห์ เลื่องชื่อลืมนามเป็นอย่างมากว่าเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในอัฟกานิสถาน หลังชมพระอาทิตย์ตกอัสดงลับขอบฟ้าไปแล้ว พาท่านเดินทางไปยังโรงแรมที่พัก

ค่ำ               เดินทางถึงโรงแรมที่พัก เช็คอินห้อง คืนนี้พักที่ Bamyan Royal Hotel ระดับ 3 ดาว รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก และพักผ่อนตามอัธยาศัย

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

จากนั้น          พาท่านเดินทางตะวันตกไปตามแม่น้ำเพื่อชม อุทยานแห่งชาติแบนด์-อี อาเมียร์ (Band-e Amir National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกในอัฟกานิสถานและได้รับการบรรจุให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกในปีคริสต์ศักราช 2004 เป็นชุดของทะเลสาบสีฟ้าที่ถูกแยกออกจากกันโดยเขื่อนกักน้ำธรรมชาติที่เกิดจากหินปูนที่มากไว้โดยแร่จากน้ำพุร้อนทะเลสาบตั้งอยู่ในภูเขาฮินดูกูชกลางอัฟกานิสถานที่ความสูงประมาณ 3000 เมตร สีฟ้าของน้ำเกิดจากการสะสมและแน่นตัวของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการแตกหักของพันธะของธาตุแคลเซียม สีของน้ำที่เห็นในภาพไม่ได้ทำการตกแต่งรูปแต่อย่างใด

กลางวัน         รับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิก

ในวันนี้ให้ท่านพักผ่อนหน่อยใจที่ริมแม่น้ำและเดินสำรวจรอบๆ อุทยานแห่งชาติแห่งนี้

จากนั้น          ได้เวลาอันสมควรแก่การเดินทางกลับสู่ตัวเมืองบามียาน

ค่ำ               เดินทางกลับโรงแรมที่พัก รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก และพักผ่อนตามอัธยาศัย

ที่พัก Bamyan Royal Hotel ระดับ 3 ดาว

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

จากนั้น          พาท่านชม ป้อมปราการชาร์-อี โซห์เฮก (Shar-e Zohak) ตั้งอยู่ทางทิศที่มุ่งหน้าไปยังหุบเขาบามิยัน เดิมใช้เป็นฐานบัญชาการทางการทหารในช่วง สองพันปีที่ผ่านมาถึงแม้ว่าจะโดนกองกำลังของเจงกีสข่านทำลาย แต่ป้อมปราการแห่งนี้ก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์และแฝงไปด้วยเรื่องราวในประวัติศาสตร์มากมาย ด้านบนสุดของป้อมปราการสามารถชมทัศนียภาพโดยรอบได้ 360 องศา

กลางวัน        รับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิก

จากนั้น          หามีเวลาเหลือพอให้เดินเล่น พาท่านเดินทางกลับไปชมซากปรักพักบนหุบเขาบามียาน ชมทัศนียภาพอันสวยงามเหนือพระพุทธรูปและดูชนบทโดยรอบ

จากนั้น          ได้เวลาอันสมควรแก่การเดินทางกลับสู่ตัวเมืองบามียาน

ค่ำ      เดินทางกลับโรงแรมที่พัก รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก และพักผ่อนตามอัธยาศัย

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

จากนั้น          เดินทางกลับเมืองคาบูล โดยสายการบิน Kam Air เที่ยวบินที่ xxxx

ถึง               คาบูล แวะชม มัสยิดแห่งกษัตริย์ดาบสองมือ (Shah-e Doh Shamshira mosque)  ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งของแม่นํ้าคาบูล สร้างขึ้นในปีคริสต์ศักราช 1920 โดยการขับเคลื่อนของ Amanullah ซึ่งตั้งใจก่อสร้างมัสยิดให้มีความทันสมัยมากขึ้นและแตกต่างจากมัสยิดแห่งอื่นโดยใช้สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่าง Versailles (ฝรั่งเศส) และ Vienna (ออสเตรีย) ชื่อของมัสยิดมาจากเรื่องเล่าเก่าแก่ที่ว่า ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7 คาบูลเป็นเมืองฮินดูที่ถูกล้อมรอบด้วยกองทัพอาหรับ ระหว่างทำสงครามกษัตริย์อาหรับได้ถูกอาวุธบั่นศีรษะ แต่ได้รับแรงบัลดาลใจจากองค์อัลลอฮ์จึงทำให้เขาสู้ต่อไปจนได้รับชัยชนะแวะชม มัสยิดแห่งกษัตริย์ดาบสองมือ (Shah-e Doh Shamshira mosque) ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งของแม่นํ้าคาบูล สร้างขึ้นในปีคริสต์ศักราช 1920 โดยการขับเคลื่อนของ Amanullah ซึ่งตั้งใจก่อสร้างมัสยิดให้มีความทันสมัยมากขึ้นและแตกต่างจากมัสยิดแห่งอื่นโดยใช้สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่าง Versailles (ฝรั่งเศส) และ Vienna (ออสเตรีย) ชื่อของมัสยิดมาจากเรื่องเล่าเก่าแก่ที่ว่า ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7 คาบูลเป็นเมืองฮินดูที่ถูกล้อมรอบด้วยกองทัพอาหรับ ระหว่างทำสงครามกษัตริย์อาหรับได้ถูกอาวุธบั่นศีรษะ แต่ได้รับแรงบัลดาลใจจากองค์อัลลอฮ์จึงทำให้เขาสู้ต่อไปจนได้รับชัยชนะ

กลางวัน         รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

จากนั้น          พาท่านเดินทางไปยัง ย่านเมืองเก่าคาบูล (Murad Khane)  เป็นย่านชุมชนที่เกิดขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดยอะห์เมด ชาห์ เดอรานี่ ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิเดอรานี่ ปัจจุบันหลงเหลือเพียงอาคารบ้านเรือนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของอิสลาม ซึ่งได้รับการคุ้มครองและดูแลมายาวนานกว่า 400 ปี

เย็น              รับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารที่ขึ้นชื่อที่สุดในตัวเมืองคาบูล

จากนั้น          พาท่านเช็คอินโรงแรมที่พัก และพักผ่อนตามอัธยาศัย

พัก Kabul Serena Hotel หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว

เช้า              รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

จากนั้น          พาท่านเดินทางไปยังสนามบินเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับอิสลามาบัด

14.00 น.        เดินทางกลับสนามบินเมืองอิสลาบัด ประเทศปากีสถาน โดยสายการบิน Kam Air เที่ยวบินที่ RQ927 ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง

15.30 น.        เดินทางถึงสนามบินเมืองอิสลาบัด ประเทศปากีสถาน รับกระเป๋าและพาท่านเดินทางรับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร The Monal Restaurant พร้อมชมวิวเมืองอิสลามาบัด

หลังรับประทานอาหาร เดินทางกลับเข้าสู่สนามบิน เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับประเทศไทย

23.20 น.        เดินทางกลับสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน การบินไทย เที่ยวบินที่ TG350 ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง 5 นาที

06.25 น.        เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

แผนที่

เงื่อนไข

  • ตั๋วเครื่องบินชั้นทัศนาจรไป -กลับพร้อมกรุ๊ป ตามรายการการเดินทาง อยู่ต่อต้องเสียค่าเปลี่ยนแปลงตั๋ว
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศปากีสถานและประเทศอัฟกานิสถาน
  • ที่พักโรงแรมตามรายการ 12 คืน (กรณีมาไม่ครบคู่และไม่ต้องการเพิ่มเงินพักห้องเดี่ยว ทางบริษัทจะช่วยจัดหารูมเมทให้)
  • อาหารตามรายการระบุ(สงวนสิทธิในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์)
  • ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการระบุ
  • ค่ารถโค้ชรับ-ส่งสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ
  • ค่าไกด์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์นำเที่ยวตามรายการ
  • ประกันอุบัติเหตุวงเงิน 1,000,000 บาท (เป็นไปเงื่อนไขตามกรมธรรม์)
  • ภาษีน้ำมันและภาษีตั๋วทุกชนิด(สงวนสิทธิเก็บเพิ่มหากสายการบินปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง)
  • ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 20 กก.ต่อ 1 ใบ
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
  • ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มพิเศษ,โทรศัพท์-โทรสาร,อินเตอร์เน็ต,มินิบาร์,ซักรีดที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
  • ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ,การประท้วง,การจลาจล,การนัดหยุดงาน,การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น, คนขับรถผู้ช่วยคนขับรถ (บังคับตามระเบียบธรรมเนียมของประเทศค่ะ)
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ตามสินน้ำใจของทุกท่านค่ะ(ไม่รวมในทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถนะคะแต่ไม่บังคับทิปค่ะ)
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์อันไม่คิดคาด เช่น ปิดถนน ปิดสนามบิน อากาศปิด ฯลฯ

- บริษัทฯมีสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมทัวร์ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้

- เที่ยวบิน , ราคาและรายการท่องเที่ยว สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ

- หนังสือเดินทางต้องมีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน และบริษัทฯรับเฉพาะผู้มีจุดประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น (หนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน บริษัทฯไม่รับผิดชอบหากอายุเหลือไม่ถึงและไม่สามารถเดินทางได้ )

- ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดความล่าช้าของสายการบิน การประท้วง การนัดหยุดงาน การก่อจลาจล หรือกรณีท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง หรือ เจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งจากไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัทฯหรือเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งบริษัทฯอาจจะปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามความเหมาะสม)

- ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น หากท่านใช้บริการของทางบริษัทฯไม่ครบ อาทิ ไม่เที่ยวบางรายการ,ไม่ทานอาหารบางมื้อ,เพราะค่าใช้จ่ายทุกอย่างทางบริษัทฯได้ชำระค่าใช้จ่ายให้ตัวแทนต่างประเทศแบบเหมาจ่ายขาด ก่อนเดินทางเรียบร้อยแล้วเป็นการชำระเหมาขาด

- ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหายจากการโจรกรรมและหรือเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเองหรือในกรณีที่กระเป๋าเกิดสูญหายหรือชำรุดจากสายการบิน

- กรณีที่การตรวจคนเข้าเมืองทั้งที่กรุงเทพฯและในต่างประเทศปฏิเสธมิให้เดินทางออกหรือเข้าประเทศที่ระบุไว้ในรายการเดินทาง บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าบริการไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น

- ตั๋วเครื่องบินเป็นตั๋วราคาพิเศษ กรณีที่ท่านไม่เดินทางพร้อมคณะไม่สามารถนำมาเลื่อนวันหรือคืนเงินและไม่สามารถเปลี่ยนชื่อได้

- เมื่อท่านตกลงชำระเงินไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนผ่านตัวแทนของบริษัทฯหรือชำระโดยตรงกับทางบริษัทฯ ทางบริษัทฯจะถือว่าท่านได้ยอมรับในเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆที่ได้ระบุไว้ข้างต้นนี้แล้วทั้งหมด

- กรุ๊ปที่เดินทางช่วงวันหยุดหรือเทศกาลที่ต้องการันตีมัดจำกับสายการบินหรือผ่านตัวแทนในประเทศหรือต่างประเทศ รวมถึงเที่ยวบินพิเศษ เช่น Charter Flight , Extra Flight จะไม่มีการคืนเงินมัดจำหรือค่าทัวร์ทั้งหมด

** เพื่อความถูกต้อง กรุณาตรวจสอบข้อมูลเดินทางและเงื่อนไขการชำระเงินกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทุกครั้ง
ราคาเริ่มต้น
209,900 บาท
รหัส 159-81814 ทัวร์ปากีสถาน GRAND AFGHANISTAN ปากีสถาน เจาะลึกอัฟกานิสถาน เที่ยว 4 เมืองไฮไลท์ และหุบเขาบามียาน
ระยะเวลา 16 วัน 14 คืน
ราคาเริ่มต้น 209,900 บาท
เดินทางช่วง พ.ค.68
เดินทางโดย Thai Airways (TG)
--------------------------------------
ดูเพิ่มเติม https://romeobkk.com/tour.php?tour_id=9582
--------------------------------------
ไฟล์ PDF https://tourfiles.vm101.net/pdf/064/159-81814.pdf
--------------------------------------
สนใจติดต่อ บริษัท โรมิโอ โวยาจ จำกัด
เลขที่ใบอนุญาต 11/10702
โทร 089-666-0222 ,065-694-5141 ,062-262-7966
LINE ID romeoontour
อีเมล romeovy88@gmail.com
คัดลอกข้อมูลทัวร์
เพิ่มในรายการโปรด
Share on social networks
Scan QRCode
ติดต่อสำนักงาน
บริษัท โรมิโอ โวยาจ จำกัด
เลขที่ใบอนุญาต 11/10702

เลขที่ 9/50 ซอยวิภาวดีรังสิต 64 แยก 13 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ

จันทร์-ศุกร์ 9.00 - 18.00 น
บริการของเรา
บริการจองตั๋วเครื่องบิน
บริการทำ VISA ทุกประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวในประเทศ
บริการเช่ารถตู้ รถบัสโดยสาร
บริการจัดอบรมประชุมสัมมนา
บริการจองที่พัก โรงแรม รีสอร์ท
ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
LineID
Add LINE Friends via QR Code
ติดตามเรา
home
หน้าหลัก
quatation
ขอใบเสนอราคา
chat
ติดต่อเรา
chat ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
search ค้นหาโปรแกรมทัวร์
home หน้าหลัก
approval ขอใบเสนอราคา