23.00 น.           คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์ สายการบิน ซานตงแอร์ไลน์ พบเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระก่อนการเดินทาง

02.25 น.        นำท่านบินตรงสู่ สนามบินลั่วหยาง เป่ยเจียว โดยสายการบิน  Shandong Airlines เที่ยวบินที่ UQ2642 (บริการอาหารว่างและน้ำดื่มระหว่างเที่ยวบิน)

07.55 น.         ถึง สนามบินเมืองชิงเต่า ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของมณฑลซานตง ได้รับการตั้งสมญานามว่า “ไข่มุกแห่งทะเลเหลือง” หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เชิญท่านรับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น นำท่านเดินทางสู่ เมืองจี่หนาน เป็นเมืองหลวงของมณฑลซานตง ทิศใต้ติดกับภูเขาไท่ซาน ทิศเหนือติดกับแม่น้ำฮวงโห ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งน้ำแร่ เพราะมีแหล่งน้ำแร่ที่สำคัญที่ชาวจีนนิยมไปท่องเที่ยวหลายแห่ง ล้วนเป็นน้ำแร่ที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งในอดีตจักรพรรดิ์จีนหลายพระองค์ต่างเสด็จมาพักผ่อนและอาบน้ำแร่ที่เมืองนี้ จากนั้นเดินทางสู่เมืองชินโจว(ใช้เวลาประมาณ 3 ชม)

เที่ยง               รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่เมืองซินโจว (忻州) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีมนต์เสน่ห์น่าท่องเที่ยวของมณฑลซานซี และเป็นที่รู้จักกันในนามว่า ‘บ้านเกิดของมวยปล้ำจีน’ ‘บ้านเกิดของแปดเครื่องเสียงดนตรีจีน

นำชมเมืองโบราณซินโจว ตั้งอยู่ที่เมืองซินโจว ในมณฑลซานซีของจีน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำชาติระดับ 4A ซึ่งในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้า และเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมและการเมืองทางตอนเหนือของซานซี เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเส้นทางชาหมื่นลี้จีน-รัสเซีย และเป็นที่รู้จักกันในนามว่า ‘กุญแจทางเหนือของซานซี’ โดยปัจจุบันมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานเกือบ 1,800 ปี ให้ท่านได้เก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านสู่ เมืองจี๋หนาน มณฑลชานตงมีเมืองหลวง (เมืองใหญ่สุด) มณฑลนี้มีเนื้อที่ 156,700 ตารางกิโลเมตร (อันดับที่ 20 ของจีน) แต่มี

ค่ำ                รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักที่ Grand Mercure Jinan โรงแรมระดับเดียวกัน 4ดาว มาตรฐานจีน

เช้า                  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำชม ทะเลสาบต้าหมิงหู ทะเลสาบที่สวยงามดั่งอยู่ในเทพนิยายจีน ตามรอยความดังของซีรี่ย์ย้อนยุคเรื่องนี้อยู่ไม่ขาดสาย ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้เป็นที่ร่ำลือกันว่ามี "สี่ประหลาด" ได้แก่ กบไม่ร้อง งูไม่มีให้เห็น ยามแล้งน้ำไม่ลด ยามฝนตกน้ำก็ไม่เพิ่ม" ได้รับการเล่าขานกันมานับแต่โบราณ นำชมเก๋งโบราณอันดับหนึ่งในใต้หล้า แต่ว่าเก๋งเดิมที่กล่าวถึงนั้นได้พังถล่มไปแล้วเมื่อปลายราชวงศ์ถัง ในรัชสมัยคังซีปีที่ 32 (ค.ศ. 1693) แห่งราชวงศ์ชิงก็ได้สร้างขึ้นใหม่ที่ "เกาะกลางบึง" ของทะเลสาบ และเนื่องจากตั้งอยู่ใต้ภูเขา "ลี่ซาน" จึงเป็นที่มาของชื่อเก๋ง "ลี่เซี่ยถิง" แม้ว่าเก๋ง "ลี่เซี่ยถิง" หลังนี้จะได้รับการซ่อมบำรุงมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงรักษารูปลักษณ์เดิมสมัยราชวงศ์ชิงเอาไว้   ชมบรรยากาศสดชื่นรื่นรมย์เต็มไปด้วยต้นหลิวที่พริ้วไหวริมฝั่งและบัวงามกลางทะเลสาบต้าหมิงหู  จากนั้นนำชม เฮยหู่เฉวียน (น้ำพุเสือดำ) ถือเป็นบ่อน้ำพุ 1 ในจำนวน 72 บ่อของเมืองจี่หนาน ที่ได้ชื่อว่า น้ำพุเสือดำ เนื่องจากเวลาน้ำพุที่พ่นออกมาจะมีเสียงดังก้องเหมือนเสือคำราม ที่เมืองจี่หนานมีน้ำพุธรรมชาติ 733 แห่งกระจายอยู่ในตัวเมือง จนได้รับสมญาว่า "เมืองแห่งน้ำพุอันดับหนึ่งในใต้หล้า" แล้วเดินทางสู่เมืองไท่อัน

จากนั้นนำชมเมืองชีฝู่ ทางสู่เมืองชวี่ฝู่ (ประมาณ 2.30 ชั่วโมง) บ้านเกิดของขงจื้อ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเขาไท่ซาน ขงจื้อเป็นนักปรัชญาเมธีที่ยิ่งใหญ่ (ข่งฟูจื่อ 551-479 ก่อนคริสตกาล) เป็นบุตรขุนนางตกยาก อาศัยอยู่ในรัฐหลู หลักปรัชญาของขงจื้อเน้นแนวคิดเรื่องเต๋า ที่ว่าด้วยกฎระเบียบแบบแผน ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ วิถีธรรมชาติ หลักจริยธรรมเป็นหัวใจสำคัญในคำสอนของขงจื้อ และมีอิทธิพลครอบงำอารยธรรมจีนยาวนานกว่า 2,000 ปี วิชาหลักๆ ของขงจื้อที่สอนให้ศิษย์ คือ วรรณคดี พิธีกรรม และดนตรี

เที่ยง                รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำชมศาลเจ้าข่งเมี่ยว (ศาลเจ้าขงจื๊อ) เชื่อกันว่าสร้างเมื่อประมาณ 478 ปีก่อนคริสตกาล (หนึ่งปีหลังจากที่ขงจื้อเสียชีวิต) ชมหอขุยเหวินเก๋อ ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 ใช้เป็นที่เก็บรักษาป้ายศิลาจารึกโองการของราชสำนัก ชมอาคารต้าเฉิงเตี้ยน เป็นอาคารประธานของศาลเจ้า สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 เคยใช้เป็น ที่ประกอบพิธีเซ่นไหว้ขงจื้อมาก่อน ภายในมีเสาศิลา 28 ต้น ตัวเสาสลักรูปมังกรไว้ 1,296 ตัว หลังคามุงกระเบื้องสีเหลืองซึ่งเป็นสีเฉพาะของวัดและจักรพรรดิเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าปรมาจารย์ขงจื้อได้รับการยกย่องเพียงใด(รวมรถแบตตารี 20 หยวน)

นำชมคฤหาสน์ตระกูลข่งซึ่งทายาทของขงจื้อได้รับยศศักดิ์และทรัพย์สินมากมายจากราชสำนัก จึงสร้างคฤหาสน์แห่งนี้ขึ้นในศตวรรษที่ 16 ช่วงราชวงศ์หมิง ภายในมีห้องหับถึง 500 ห้อง ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ตระกูลข่งนับเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดตระกูลหนึ่งในจีนขณะนั้น คฤหาสน์นี้ได้ใช้เป็นที่พำนักของคนในตระกูลจนถึงคอมมิวนิสกำชัยชนะในปี ค.ศ. 1948 ทายาทรุ่นสุดท้ายจึงได้หนีไปอยู่ที่ไต้หวัน

นำชมสุสานขงจื้อ ตั้งอยู่ในป่าข่งหลิน ทางเข้าสุสานมีรูปมนุษย์และสัตว์ตั้งเรียงรายอยู่สองฟากทางเดิน ซึ่งตามธรรมเนียมจะใช้เฉพาะจักรพรรดิ์และราชวงศ์ชั้นสูงเท่านั้น จึงนับว่าตระกูลข่งมีอภิสิทธิ์อย่างยิ่ง  แล้วนำท่านเดินทางกลับไท่อัน

ค่ำ                รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ท่านสามารถเลือกซื้อ OPTION:230CNY/PAX : ชมโชว์ The grand worship of heaven and earth about mount tai กรุณาแจ้งซื้อตั๋วชมโชว์ที่ หัวหน้าทัวร์หรือไกด์ท้องถิ่นได้โดยตรง

พักที่ GE  DE  ZHI HUI HOTEL หรือเทียบเท่า 4ดาว มาตรฐานจีน

เช้า                  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านสู่ ภูเขาไท่ซาน (泰山) ภูเขาที่ได้รับการขนานนามว่า “สวยที่สุด” ในบรรดาห้าขุนเขาอันยิ่งใหญ่ของจีน ตั้งอยู่ที่ เมืองไท่อาน หนึ่งในเมืองท่องเที่ยว แห่ง มณฑลซานตง บนสุดของ ภูเขาไท่ซาน มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,545 เมตร มีหินผาตั้งเรียงรายจำนวนมาก กวีเอกแห่งจีนหลายท่านเคยจารึกบทกลอนมากมายไว้ที่ ภูเขาไท่ซาน แห่งนี้ จนได้ขึ้นชื่อว่าเป็น พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ และศิลปะกลางแจ้ง ที่สะท้อนสัญลักษณ์แห่งอารยธรรมเก่าแก่ของจีน และภายหลัง ยูเนสโกได้ยกย่องให้ ภูเขาไท่ซาน เป็น มรดกโลก ในปีค.ศ. 1987 ภูเขาไท่ซาน ถือเป็น ขุนเขาแห่งแรกของจีน และเป็น 1 ใน 5 ภูเขาที่สำคัญที่สุดของประวัติศาสตร์จีน โดยมียอดสูงสุดคือ ยอดจักรพรรดิหยก มีความสูงประมาณ 1,532.7 เมตร ทั้งยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดพิธีบวงสรวงในรัชสมัยต่าง ๆ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น เขาศักดิ์สิทธิ์แห่งประเทศจีน ชมซุ้มประตูแห่งแรกที่เรียกว่า "เทียนเหมิน" (ประตูหนานเทียนเหมิน )และที่ซุ้มประตูแห่งนี้ ยังมีศิลาจารึกที่สร้างขึ้น เพื่อรำลึกถึงการมาไต่เขาไท่ซานของขงจื๊อด้วยยอดเขาไท่ซานที่เรียกว่า "ยู่หวงติ่ง"จะเปล่งประกายแสงสีทองทอออกมาดูงดงามอร่ามตาของวันใหม่ ท่ามกลางสายหมอกขาวโพน ที่ได้เห็นแล้วราวกับอยู่ในความฝัน 

เที่ยง                รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร  

หลังอาหารนำท่านเดินทางไปเมืองชิงเต่า (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม.) อิสระให้ท่านชมทิวทัศน์ และบรรยากาศระหว่างการเดินทางและพักผ่อนตามตามอัธยาศัย

ค่ำ                   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักที่ KAI LAI HOTEL หรือเทียบเท่า 4ดาว มาตรฐานจีน

เช้า                  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม สะพานจ้านเฉียว ซึ่งสร้างในสมัยจักรพรรดิ กวงสู ราชวงศ์ชิง ราวปี ค.ศ.1819 ตัวสะพานยาว 440 เมตร กว้าง 8 เมตร ยื่นลงไปในทะเล ในสมัยโบราณเคยใช้เป็นที่ขนส่งสินค้าทางทะเล ส่วนปลายนั้นเป็นที่ตั้งของศาลา ฮุ่ยหลัน ที่ออกแบบเป็นรูปเก๋งจีนทรงแปดเหลี่ยม ซึ่งถือเป็นจุดชมวิวและสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของเมืองชิงเต่า 

จากนั้นนำชม พิพิธภัณฑ์เบียร์ชิงเต่า ตั้งอยู่ในส่วนที่เป็นโรงงานเก่า ของบริษัทผู้ผลิตเบียร์ชิงเต่า ซึ่งบริษัทฯนี้ถูกก่อตั้ง โดยชาวเยอรมัน มาตั้งแต่ ปี 1903 นอกจากนักท่องเที่ยว จะได้รู้ประวัติความเป็นมา ของบริษัทจากอดีต ถึงปัจจุบัน ให้ท่านชมกรรมวิธีการหมัก โรงบ่ม สายพานการผลิต พร้อมชิมเบียร์รสชาติดีที่สุดของจีน (ฟรีชมเบียร์ชิงเต่า ท่านละ 1 แก้ว)

เที่ยง                รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร  

จากนั้นนำท่านสู่ ถนนคนเดินไถตง มีขนาดใหญ่มาก เป็นแหล้งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในชิงเต่า มีเสื้อผ้า ร้านอาหารมากมายให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้า เสื้อผ้า ชิมอาหารอาหารและของที่ระลึก ตามอัธยาศัย      

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อทำการเช็คอินและโหลดสัมภาระก่อนบิน

20.50 น.          ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบิน ซานตงแอร์ไลน์เที่ยวบินที่ SC4079 (บริการอาหารว่างและน้ำดื่มระหว่างเที่ยวบิน)

01.25+1 น.      เดิทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ